ที่เที่ยวปีนัง เมืองมรดกโลก ไปเป็นคู่ก็ไปเที่ยวได้

รอบนี้ไปแบบสบายๆ ค่าใช้จ่ายเลยสูงหน่อย นอนโรงแรม เที่ยวปีนังฮิลล์ ถ่ายรูปสตรีทอาร์ท กินข้าวข้างทาง

ปีนังจ๋า เรามาอีกแล้ว
บินไป-กลับ ลงหาดใหญ่ ต่อรถตู้ไปปีนัง
วันแรก เข้าที่พัก
วันสอง ขึ้น Penang hill, Blue mansion, Khoo Kongsi
วันสาม Street Art

ทริปนี้เราบินกับพี่สิงโต Thai Lion Air ในไฟลท์เช้า

Lost in Penang — รถสองแถว สนามบินหาดใหญ่

พอไปถึงสนามบินหาดใหญ่เราก็ออกมาต่อรถตู้ไปลงในเมือง บอกคนขับลงใกล้สี่แยกสะพานลอย ใกล้โรงแรม VL หาดใหญ่ จุดสังเกตคือจะเลยข้ามสะพานทางรถไฟไปหน่อย

พอลงรถสองแถว เราอาจหากินข้าวแถวนั้น และก็แลกเงินไว้ใช้ด้วย

จากนั้นเดินไปท่ารถตู้ KST Travel เพื่อขึ้นรถตู้ นอนบนรถตู้ระยะนึง รถจะพามาจอดที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ตรงนี้เราต้องเดินไปทำเรื่องให้เรียบร้อย รถตู้จะจอดรอฝั่งมาเลเซีย เพื่อไปต่อปีนัง

ถ้าโชคดีรถตู้จะขับหลบตำรวจทางหลวงมาเลเซียไปลงเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก เราจะได้มีเวลาลงไปยืดตัวบนเรือ แดดยามบ่ายนั้นร้อนมาก แต่ก็สวยไปอีกแบบ

บนเรือก็จะมีร้านขายขนม เครื่องดื่มไว้คอยบริการด้วย

สองคืนเราพักที่ Kimberley Hotel Georgetown เป็นห้องไม่ใหญ่มาก ดีที่ใกล้ตึก komtar ที่รวมป้ายรถเมล์ประจำทาง เดินทางสะดวกว่างั้น ใกล้ตลาดเช้าด้วยนะ

มื้อเย็นเราฝากท้องไว้กับร้านนี้ เดินนิดเดียวเองอยู่ซอยใกล้ๆกัน

คล้ายก๋วยจั๋บใส่เครื่องพะโล้

เช้าวันที่สอง
เราตื่นแต่เช้าตรู่ ตีห้า เดินไปยังท่ารถเมล์ประจำทางสาย 204 จุดหมายอยู่ที่ Penang Hill ปีนังฮิลล์ ไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน

Penang Hill ปีนังฮิลล์ - ที่เที่ยวเมืองปีนัง — รถรางไฟฟ้า Penang Hill ปีนังฮิลล์ – ที่เที่ยวเมืองปีนัง

ราคาค่ารถรางไปกลับอยู่ประมาณเกือบ 300 บาทไทย ได้รถรอบสอง เห็นจะได้ กลัวมาไม่ทัน ก็ยังมีคนได้ขึ้นไปก่อน มาแต่เช้าคนน้อย ไม่ต้องรอนาน ถ้ามีบัตรนักเรียน นักศึกษา สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ด้วย

มาทันเวลาพอดี เดินจากสถานีรถรางข้างบนนิดหน่อย จะมีมุมถ่ายรูปเยอะเลย จุดชมวิวปีนังฮิลล์

หันซ้ายจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น หันขวาจะเห็นมุมเมืองปีนังยามเช้า

อากาศด้านบนปีนังฮิลล์เย็นสบาย ตลอดทั้งปี ด้านบนจริงๆสามารถเดินเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน มีสวนนกฮูก มีพิพิธภัณฑ์กล้องก็ย้ายมาที่นี่แล้ว มีสวนพฤกษาศาสตร์ บ้านพัก

ลงด้านล่าง แวะเดินตลาดริมทางหาข้าวกิน

ได้เส้นหมี่ผัดอะไรมาไม่รู้ รสพอได้อยู่บ้าง

คฤหาสน์สีคราม Blue Mansion (Cheong Fatt Tze Mansion) ที่เที่ยวเมืองปีนัง

เกือบ 11.00 โมง เราเดินไปยัง คฤหาสน์สีคราม Blue Mansion (Cheong Fatt Tze Mansion) ที่นี่จะมีโทนสีหลักคือสีน้ำเงิน

ตัวคฤหาสน์ประกอบด้วยงานฝีมือหลายชนิด เช่น งานไม้แกะสลักของชาวจีน หน้าต่างบานเกล็ดแบบโกธิค กำแพงอิฐสีน้ำตาล งานตัดและตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบและกระจก บานกระจกวาดลวดลายสมัยใหม่ กระเบื้องปูพื้น Stoke-on-Trent และงานหล่อเหล็กแบบสก็อต ตัวคฤหาสน์ สร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย ประดับด้วยรูปปั้น รูปสลัก และผ้า และวัตถุโบราณมากมาย ในทศวรรษที่ 1990 คฤหาสน์ แห่งนี้ได้รับการบูรณะจากกลุ่มอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม นำโดยลอเรนซ์ หลอ

เอาจริงๆ ที่นี่เหมาะแก่การมาจองพักซะมากกว่าการมาเดินชม เพราะรอบการเที่ยวนำจะโดนเร่งเวลามาก ไม่สามารถเดินทอดน่องชมความงาม เดินถ่ายรูป ได้อย่างสบาย

แนะนำให้ไป คฤหาสน์เปรานากัน (Pinang Peranakan Mansion) ยังจะคุ้มมากกว่า ตามไปอ่าต่อที่ ที่เที่ยวปีนัง [Lost in Penang] คฤหาสน์ตระกูลใหญ่เปรานากัน Peranakan Mansion

บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi) ที่เที่ยวเมืองปีนัง

ช่วงบ่ายแก่ๆ เราเดินต่อไปยัง บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi) บ้านสกุลคูคือหนึ่งในบ้านประจำตระกูลห้าหลังในย่านจอร์จทาวน์ มีลักษณะเหมือนหมู่บ้านประจำตระกูลขนาดย่อมที่โดดเด่นและเป็นบ้านประจำตระกูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนัง ตัวบ้านใช้เสาไม้ขนาดย่อมรองรับน้ำหนักของหลังคากระเบื้องสีแดงซึ่งมีรูปทรงโค้งเล็กน้อย ด้านบนหลังคามีรูปสลักมังกร หงส์ สัตว์ในตำนาน รวมทั้งภาพวาดตำนานมากมายที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีน

ศาลประจำตระกูลคู ที่เที่ยวเมืองปีนัง — บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi) ที่เที่ยวเมืองปีนัง

เราปิดวันไปด้วยอาหาร ผัดหมี่ ข้าวมันไก่ และปลาย่าง จากย่าน Gurney Drive Hawker Centre กุนนี่ไดรซ์ ก็เป็นแหล่งรวมของกินอะ เหมือนฟูดคอร์ดในห้าง นั่งรถเมล์ไปพอประมาณ เรียกว่าเปลี่ยนที่กินข้าวเฉยๆ

วันที่สาม
วันแห่งการเดินถ่ายรูปเก็บมุมสตรีทอาร์ตเด่นๆ ในย่านเมืองเก่า พิกัดจุดต่างๆสามารถหาได้จากใบปลิว แผ่นพับที่มีตามที่พัก โรงแรม โฮสเทล ได้เลย