ปลายฝนต้นหนาว ที่นี่ ภูทับเบิก แล้วทะเลหมอกก็มา

• Facebook
• Twitter
• Line

ภูทับเบิก ใครๆก็อยากไปกัน ไปทำไร ไปดูทะเลหมอกตอนเช้า ไปดูไร่กะหล่ำบนดอย ไปเมารถเพราะทางขึ้นโค้งไปมา หรือจะไปเพราะได้ไปกับคนรู้ใจ

ปลายฝนต้นหนาว ต้นเดือนตุลาคม เช้าตรู่วันอาทิตย์ ขับรถออกจากรุงเทพฯ ถนนมิตรภาพ จนถึงสระบุรี แล้วเปิดแผนที่วิ่งต่อเส้นทางหมายเลข 21 ยาวไปถึงเพชรบูรณ์กันเลยทีเดียว มีแวะเข้าห้องน้ำ กินข้าวเช้าระหว่างทางบ้าง อาศัยว่าเส้นทางนี้รถใหญ่ไม่เยอะมาก

ชมคลิปอินโทรกันก่อน

ช่วง 11.00 โมงท้องเริ่มหิวมาถึงแถววิเชียรบุรีพอดี แถวนี้ไก่ย่างชื่อดัง เราเลือกร้านบัวตอง ไก่ย่าง1 ส้มตำ1 ข้าวเหนียวร้อนๆ ร้านนี้ดูสะอาด อาหารไม่แพง แล้วก็น้ำจิ้มเด็ดจริง

เราขับรถต่อไปเรื่อยจนเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางหมายเลข 12 แล้วย้อนไปตามทางเข้าเขาค้อ เพื่อจะไปเที่ยวยัง กังหันลมยักษ์ บ้านเพชรดำ

เนื่องจากมาตอนปลายฝนต้นหนาว ก็อาจจะเจอก้อนเมฆฝนแบบนี้ได้ แต่โชคดีมีแต่เมฆกับฟ้าร้อง ฝนไม่ตกเลย

ทุ่งกังหันลมเขาค้อ เป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาด แต่ละกังหันลมมีความสูงกว่า 100 เมตร จำนวน 24 ต้น มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 60 เมกกะวัตต์ ไม่ว่าจะอยู่บริเวณเขาค้อ ทุ่งสมอ หรือแคมป์สนก็จะมองเห็นกังหันลมนี้ได้โดยง่ายและชัดเจน

ย้อนกลับออกมาทางเดิม เพื่อมาแวะเข้าวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วันอาทิตย์ตอนบ่ายเนี่ยแหละคนน้อยลงแล้ว เพราะส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับกรุงเทพฯกัน

เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นที่ปฏิบัติภาวนาของพุทธบริษัท

พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ องค์สีขาวล้วนนวลตา

พักดื่มน้ำที่ไม่ค่อยอร่อย แต่วิวสวยดี กับ Pino Latte ทางขึ้นร้านชันนิดนึง เหมือนเดิม ช่วงคนน้อย หาที่จอดง่าย คิวไม่นาน

หลังจากนี้เราทำเวลานิดนึง พี่เจ้าของที่พักโทรมาตามกลัวว่าจะขึ้นภูทับเบิกกันช้า เดี๋ยวมืดแล้วจะขับลำบาก ระยะทางเพียง 20 กว่ากิโลเมตรจากทางขึ้นภูทับเบิกข้างล่าง แต่ใช้เวลาพอนานอยู่ โค้ง S ไปมาหลายช่วง

กว่าจะถึงที่พักก็มืดค่ำพอดี ทุ่มนึงได้ครับ หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าห้องพักก็ออกมาหาอะไรกินง่าย ข้าวผัดหมู แกงจืดเต้าหู้ กะหล่ำผัดน้ำปลา กินได้ไม่กี่คำฝนกระหน่ำลงมา ลมแรงพัดเอาละอองน้ำฝนตามมาด้วย แต่ตกไม่นานก็สงบลง พร้อมอากาศที่เย็นลงมากผิดกับอากาศแถวตีนภู ที่เราอยู่ช่วงบ่ายเลย

หน้าตาที่พักภูทับเบิก แฟนซี ลูกกวาดมาก แต่ราคาไม่ถูกนะ แล้วก็ผมคิดว่าวิวไม่ได้ดีมากเกินไป เพราะจุดชมทะเลหมอกต้องเดินลงไปอีกนิดถึงจะสวย

06.00 เช้าวันจันทร์ แสงแรกมาแล้ว พร้อมกับฟ้าปิด ทะเลหมอกหาย เต้นท์ที่มากางก็ไม่กี่สิบหลัง ตื่นเช้ามาแบบนี้แน่นอนยังไม่อาบน้ำ

ได้เดินวนอยู่สองสามรอบจนแน่ใจว่าไม่มีทะเลหมอกไหลมาแล้วก็กลับห้องพัก อาบน้ำแต่งตัว ไปกินข้าวเช้า ข้าวต้มร้อนๆ

อะๆ พอ 08.00 เดินมาดูอีกรอบ ทะเลหมอก เริ่มก่อตัวมาแล้ว ที่เห็นไกลๆตรงกลางนั่นคือ วัดป่าภูทับเบิก ซึ่งไม่ได้แวะเข้าไปครับ

ห้องนี้วิวสวยสุด จองยากสุด อยู่หลังริมสุดๆ แต่ผมว่าถ่ายจากจุดนี้ให้เป็นองค์ประกอบจะสวยสุดละ

ไม่นานหมอกก็ปกคลุมไปทั่ว ที่เห็นเขียวนั้นคือ ไร่กะหล่ำ กำลังรอโต

เด็กม้งดูไร้เดียงสา พี่สาวสองคนนั่งเฝ้าไร่กำหล่ำ

ก่อนกลับมีผลผลิตชาวบ้านมากมายให้เลือกต่อราคาซื้อก่อนกลับ

ขากลับลงภูทับเบิกใช้เส้นทางเดิม อาศัยว่าค่อยลงไม่ต้องรีบ

สุดท้ายแล้วเส้นทางกลับกรุงเทพฯ ผมเลือกแวะไปยังพิษณุโลก นมัสการ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนกลับด้วยครับ เส้นทางสายเอเซียรถเยอะ และต้องผ่านหลายจังหวัด ก็ขับรถด้วยความระมัดระวังด้วยนะครับ

จะเห็นว่าการเที่ยวภูทับเบิกนั้นสะดวกสบาย ยิ่งเราแพลนล่วงหน้าไว้แล้ว จองที่พักเรียบร้อย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่ากังวลเลยครับ จะมีเพิ่มก็แค่เส้นทางขึ้นภูทับเบิกควรขับรถเป็นบ้างสมควร และระมัดระวัง อุบัติเหตุก็จะไม่เกิดแน่นอนครับ

link เส้นทางที่ไปเที่ยวภูทับเบิกมาครับ เซฟใน Google Maps ไว้ให้
https://goo.gl/maps/bs1A3NYMrpn

ข้อมูลบางส่วนจาก
http://www.khaoko.com/checkin/windturbine.html
http://www.phasornkaew.org/

---

ร่วมหลงทางไปเที่ยวกับเรา

• ร่วมเดินทางไปกับเราได้ที่ www.com2ine.com
• กด like ติดตามแฟนเพจเราได้ที่ หลงทางไปเที่ยวกับ com2ine
• กด subscribe วิดีโอใหม่ของเราได้ที่ https://www.youtube.com/user/comzine69/

• Facebook
• Twitter
• Line